• Home
  • /
  • บทความ
  • /
  • เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 19

เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 19

แม่ก็เล่าเรื่องในวันนั้นทั้งหมดให้ลุงยักษ์ฟัง คร่าวๆคือกลับจากโรงเรียน ผ่านศาลร้างใต้ต้นไม้ เจอผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ไม่รู้ว่าใช่คนเดียวกับที่ลุงยักษ์ยิงคืนนั้นรึเปล่า แต่ก็คล้ายๆโดยมีหมอยายืนฟังข้างๆ จนแม่เล่าจบ หมอยาซึ่งนิ่งมานานก็พูดขึ้นมาว่า“คงไม่ใช่คราวซวยแล้วมั้ง นี่มันตั้งใจเลย” LYNBET ลุงยักษ์ก็ถามหมอยาว่าหมายความว่ายังไง

หมอยาเลยบอกว่า ปกติเรื่องแบบนี้ใช่ว่าจะเกิดได้ง่ายๆ ไม่งั้นคนก็คงเจอผีกันทุกวัน มันเป็นที่ดวงหรือคราวเคราะห์และสิ่งสำคัญมากๆคืออยู่ที่ตัวคนๆนั้นด้วยว่ามีสภาพร่างกาย LYNBET และจิตใจเป็นยังไง ซึ่งจากที่ฟัง แม่เล่ามา หมอยาบอกว่ามีความเป็นไปได้ที่มันรู้เลยมาดักรอเพราะวันนั้น เห็นบอกว่า น้าแย้มไม่สบาย ทั้งร่างกายและจิตใจคงจะอ่อนแออยู่ แถมยังเป็นเด็กด้วยก็อาจจะเป็นช่องให้สิ่งพวกนี้มันรังควานได้ง่าย หมอยาพูดต่อว่า ศาลร้างตรงใต้ต้นไม้นั่นก็เหมือนกัน

เห็นคนกราบไหว้กันมาก ใช่ศาลที่สร้างไว้ให้เจ้าที่เจ้าทางอาศัยอยู่รึเปล่าก็ไม่รู้ เคยผ่านไปตอนกลางโผล้เผล้เหมือนกัน มองไป

ไม่ให้ความรู้สึกอุ่นใจ หรือน่ากราบไหว้เล้ย ดูน่ากลัวซะมากกว่า

ลุงยักษ์ถามต่อว่า แล้วลุงพุฒิเล่าอะไรให้ฟังบ้าง หมอยาบอกว่า ลุงพุฒิเขาไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟังหรอก ถ้าไม่จำเป็น

จากนั้นลุงยอดก็เดินออกมาตาม บอกหมอเวรเข้ามาดูอาการแล้ว ต้องรอผลตรวจอีกที ลุงยักษ์จะเอายังไง

ลุงยักษ์ถามหมอยาว่าจะกลับบ้านมั้ย เดี๋ยวขับไปส่ง หมอยาก็บอกว่าถึงมือหมอแล้ว อยู่ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ถ้ายักษ์จะไปส่ง

ก็กลับเลยดีกว่า ลุงยักษ์เลยให้ลุงยอดอยู่เป็นเพื่อนแม่กับยาย ส่วนตัวเองจะชับรถไปส่งหมอยา และก็จะลงไปถามลุงพุฒิด้วยว่าจะเอายังไง

(เรื่องหลังจากบรรทัดนี้ ลุงยักษ์มาเล่าให้ฟังตอนหลัง)

ลุงยักษ์เล่าว่า ลงไปเจอลุงพุฒินั่งอยู่หน้าศาลพระภูมิ ใจจริงก็อยากให้ลุงพุฒิอยู่ด้วย แต่ก็เกรงใจ ไปส่งที่บ้านดีกว่า

ลุงพุฒิบอกว่า ถึงตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะที่ทำได้ก็ทำไปหมดแล้ว

ที่เหลือต้องให้ทางคุณหมอดูแล และก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของน้าแย้ม

ลุงยักษ์ถามขำๆว่า ขากลับมันดึกกว่าเดิม จะเจออะไรแบบตอนขามามั้ย? ลุงพุฒิตอบ สีหน้าดูไม่ค่อยสบายใจว่า

“พวกเราน่ะคงไม่เจอหรอก มันถ่วงแข้งถ่วงขาเราจนพอใจแล้ว แต่…” ลุงพุฒิก็หยุดพูดแค่นั้น

กลางดึกคืนนั้นในห้องผู้ป่วย ยายกับลุงยอดหลับไปแล้ว ส่วนแม่ยืนดูวิวตรงหน้าต่าง มองไปเห็นรั้วโรงพยาบาล

ถัดไปเป็นถนน

อาจเป็นเพราะไม่ชินที่ จึงนอนไม่หลับ มาสะดุ้งตอนได้ยินเสียงน้าแย้มเรียกเบาๆ แม่หันกลับไปมองก็ยังกลัวๆ

กลัวว่าคนที่เรียกจะเป็นตัวน้าแย้มหรือเป็นสิ่งอื่นที่คนอื่นพูดๆกันอยู่ว่าอยู่ในตัวน้าแย้ม

น้าแย้มเรียกแม่เบาๆ เรียบๆ อยู่ 2-3 ครั้ง ถึงจะไม่คุ้นหู แต่แม่ก็ไม่รู้สึกกลัว เพราะมีความรู้สึกว่าคนที่เรียก

เป็นน้องสาวตัวเองที่ไม่ได้คุยมาหลายวันแน่นอน น้าแย้มบอกแม่ว่าขอกินน้ำหน่อย หิวน้ำมาก

แม่หยิบน้ำมาป้อนน้องสาวตัวเอง น้าแย้มสำลักเล็กน้อย พอดื่มน้ำเสร็จ น้าแย้มก็ถามต่อ

“ที่นี่ที่ไหน ทำไมมานอนตรงนี้? จำได้ว่าไม่สบายนอนอยู่บ้าน” แม่ก็บอกว่า

“อยู่โรงพยาบาล แย้มไม่สบายมาก แม่ (ยาย) เลยพามาหาหมอ” แม่ถามว่าเป็นยังไงบ้าง น้าแย้มบอกปวดท้องนิดหน่อย

แล้วน้าแย้มก็พูดว่า

“คิดถึงจัง เหมือนไม่ได้เจอกันนานมาก” แม่ถึงกับน้ำตาซึม แต่ก็พูดติดตลกไปว่า

“รู้ป่ะ มีแต่คนบอกว่าแย้มโดนผีสิง” น้าแย้มก็ทำหน้างง

พอแม่จะพูดต่อ ยายก็ลุกขึ้นมาพอดี บอกว่าอย่าไปหลอกน้องสิ

แล้วยายก็เข้าไปถามว่าเป็นยังไงบ้าง น้าแย้มก็บอกว่ารู้สึกปวดๆท้อง แต่ก็ไม่มาก อยากกลับบ้าน

ยายก็บอกว่า รอดูอาการพรุ่งนี้ก่อน  ถ้าไม่มีอะไรก็กลับบ้านกันนะลูก แล้วสักพักน้าแย้มก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

แม่ก็นอนมองหน้าน้องสาวจนหลับไปเช่นกัน

Rhythm in the Air

2 มิถุนายน 2558 เวลา 16:34 น.

วันรุ่งขึ้นผลตรวจร่างกายก็ยังไม่มา ลุงยอดออกไปหาอะไรมาให้ยายกิน แม่เลยขอลงมาเดินเล่นด้านล่างอาคาร

ยายบอกว่าอย่าไปเล่นไกล แม่เจอคนแปลกหน้า ทั้งคนป่วย และญาติคนป่วยมากมาย แต่ก็ไม่รู้จะไปคุยไปเล่นกับใคร

เดินจนเบื่อกำลังเดินกลับขึ้นห้อง ก็เจอแมวดำตัวนึง เดินมาพันแข้งพันขา แม่เลยนั่งเล่นกับแมว จนคิดว่า อยากให้น้าแย้มหายไวๆ

จะได้กลับไปเล่นพร้อมหน้าพร้อมตากันอีก จนลุงยอดกลับมาจึงเดินขึ้นห้องไปด้วยกัน

ช่วงบ่ายลุงยักษ์กับตามาเยี่ยม แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกับน้าแย้มมาก เพราะน้าแย้มนอนหลับอยู่

ตากับลุงยักษ์ก็ไปคุยกับหมอว่าสรุปเป็นอะไรยังไง

แต่หมอก็บอกว่าต้องรอแพทย์เฉพาะทาง อีกอย่างอาการของน้าแย้มก็ดูเหมือนจะดีขึ้นแล้ว

ช่วงเย็นๆ จึงทยอยกลับกัน เหลือแค่ยายกับแม่ 2 คน

และช่วงกลางดึกคืนนั้นเอง เหตุการณ์ประหลาดก็วนกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง

แม่ฝันว่าเห็นน้าแย้มนั่งร้องไห้ แม่ก็เข้าไปถามว่าเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม น้าแย้มกำลังพูด

แต่แม่ก็สะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียงประหลาดเย็นเยียบนั้นอีกครั้ง

ธี่…………………..หยด ธี่…………………..หยด ธี่…………………..หยด

ณ ตอนนั้น แม่สะดุ้งตื่น แต่อาการเหมือนโดนผีอำ คือเห็นทุกอย่าง รอบข้าง แต่พูดไม่ได้ นอนเกร็งนิ่ง แม่มองไป

ภาพเลือนลางที่เห็นคือน้าแย้มนั่งโยกตัวไปมา พึมพัมๆ ทำเสียงประหลาด นั่งยืดขายาวอยู่บนเตียง

บนตัวน้าแย้มมีแมวสีดำตัวนั้นนั่งคร่อมอยู่ พอพูดวลี แปลกๆนั่นจบ น้าแย้มก็หันมามองหน้าแม่แล้ว ยิ้ม….

แม่รู้ทันทีว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่น้าแย้มแน่ แม่กลัวจนอยากจะกรีดร้องแค่ไหน แต่ก็ไม่มีเสียง ขยับไม่ได้

ได้แต่เหลือกตาไปมา แล้วน้าแย้ม (ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นตัวน้าแย้มเองรึเปล่า) ก็พูด เรียบๆ แบบไร้ความรู้สึกว่า

“กรูไปล่ะนะ”

หลังจากพูดจบ น้าแย้มก็ทิ้งตัวหงายหลัง ลงบนเตียงเหมือนคนไม่มีสติ

ส่วนแมวดำที่นั่งอยู่บนตัวน้าแย้มก็พุ่งไปที่หน้าต่าง แล้วก็กระโดดหายลับตาไป ณ ตอนนั้นแม่ก็เหมือนหลุดจากอาการโดนอำ

ลุกเข้าไปเขย่าตัวน้าแย้ม แต่น้าแย้มยังคงหลับ แต่ที่ทำให้แม่ตกใจ คือที่มุมปากน้าแย้มมีเลือดไหลเยิ้มออกมา…

แม่ร้องเรียกยาย ยายตกใจลุกขึ้นมาเห็นอาการลูกสาวปุ๊บก็ร้องลั่น แล้วรีบวิ่งไปตามหมอ

ส่วนแม่ยืนตัวสั่น อ่อนแรง…เรียกน้องเบาๆ แย้ม………แย้ม  แต่ไม่มีเสียงตอบรับ

แม่โซเซ ไปที่หน้าต่างที่แมวดำตัวนั้นกระโดดลงไป มองไปรอบๆก็ไม่เห็นอะไร นอกจากความมืดมิด

สายตาแม่มองกวาด ไปถึงรั้วโรงพยาบาลด้านหน้า ไฟจากถนนทำให้แม่เห็นบางสิ่ง

แม่หน้าซีด… ผู้หญิงนุ่งผ้าถุง ใส่เสื้อสีดำ ยืนสงบนิ่งอยู่ตรงนั้น

กลับสู่หน้าหลัก

Leave a Reply