ตากับหมอยาพร้อมลุงยศ เดินตามเข้าไปดูก่อน แม่จึงคว้ามือลุงยอดเดินตามเข้าไปด้วยแม่ได้ยินเสียงลุงพุฒิเตือนว่าอย่าเข้าไปใกล้มากสิ่งนั้น ไม่เพียงมีกลิ่นที่ชวนให้คลื่นเหียน มองเผินๆ เหมือนใยแมงมุม LYNBET แต่พอเข้าไปใกล้ๆดูชัดๆก็เห็นว่าเป็นเมือกใสๆเหมือนกาวยาง ระโยงระยางห้อยซ้อนกันไปมา น้ำเหนียวๆยืดห้อยต่องแต่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ใต้เมือกเหนียวๆ มีเศษซากอะไรบางอย่างแม่บอกว่าตอนแรกนึกว่าเป็นเศษใบไผ่ที่กองทับกันจนแห้งเหี่ยว
แต่พอมองดูดีๆ สิ่งนั้นมันคล้ายลำไส้หรืออวัยวะ(คนหรือสัตว์ก็ไม่รู้) ที่ถูกฉีกจนยุ่ย เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกองรวมกับเศษผ้าเก่าๆ แล้วก็ปอยผมเล็กๆ LYNBET หลายปอย ดีที่อวัยวะพวกนั้นแห้งกรังไปหมดแล้วแม่ทนไม่ไหวเดินออกมาอาเจียน เห็นหมอยาเดินหลบมาคุยกับลุงพุฒิ ระหว่างนั้นเองลุงยศก็หยิบลำไผ่ที่เกลื่อนอยู่กับพื้นขึ้นมา 1 ลำแล้วเอาไปเขี่ยเมือกที่อยู่ตรงหน้า ลุงพุฒิหันมาเห็นก็บอกว่าอย่าไปถูกมันแต่ช้าไปแล้ว ลุงยศเขี่ยไปแล้ว
พลันที่ลุงยศเขี่ยเมือกใสนั้น น้าแย้มที่ตอนแรกนอนอยู่ในห้องลากเท่าไหร่ก็ไม่ยอมไปไหน โผล่พรวดมายืนตรงประตูหลังบ้านสีหน้าบึ้งตึง แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมา ลุงพุฒิตะโกนบอกให้จับน้าแย้มกลับเข้าไปในห้องลุงยอดเข้าไปจับไว้ แต่ก็เหมือนเดิมคือ สู้แรงเด็กสาวอายุไม่เกิน 15 ไม่ได้ แม่ก็เดินเข้ามาช่วย บอกว่า“แย้มออกมาทำไมเข้าไปรอในบ้านก่อน” น้าแย้มไม่สนใจเลย ผลักแม่จนเกือบจะล้ม
ลุงยักษ์เลยเดินเข้าไปขวางจับไหล่แล้วบอกว่า
“แย้ม เข้าบ้านไปก่อน” น้าแย้มหันมามองลุงยักษ์ แต่ก็ไม่สนสะบัดมือจะเดินต่อ แต่ลุงยักษ์ไม่ปล่อย
ตบหน้าน้าแย้มเสียงดังเผี๊ยะ
“กรูบอกให้ไปรอในบ้าน” ตากับแม่ก็ตกใจ แต่น้าแย้มก็ไม่ยอมดิ้นแรงมาก จนลุงพุฒิเดินเข้ามาเอาสีผึ้งป้ายตรงหน้าผาก
หน้าแย้มก็หยุดดิ้น มีอาการเหมือนเดิมคือตาเหลือก เกร็ง แล้วลุงพุฒิก็บอกให้ลุงยักษ์กับลุงยอดพาน้าแย้มกลับเข้าไปรอในห้อง
เสร็จแล้วลุงพุฒิก็เดินเข้าไปคุยกับตา บอกว่าไอ้ของพวกเนี่ย เป็นเสนียดมาก เป็นเหมือนของอัปมงคล ที่พวกเล่นของสมัยก่อน
จงใจกัดกิน ส่วนที่เหลือก็เก็บติดตัวไว้ ลุงพุฒิอยากทำลายให้หมดไปเลย ตาก็ถามว่าจะทำยังไง
ลุงพุฒิก็บอกว่า คงต้องขอเผาทั้งกอไผ่ไปเลยจะเป็นอะไรมั้ย ตาซึ่งตอนนี้เริ่มเชื่อก็บอกว่า ถ้าคิดว่าทำแล้วมันดีขึ้นก็เอาเถอะ
แต่ลุงพุฒิบอกว่าก็ไม่มั่นใจ แต่คิดว่ายังไงก็ไม่ควรเก็บของพวกนี้ไว้